6 ประโยคทรงพลัง กับศิลปะการต่อสู้ "ไอคิโด" (Aikido / 合気道)
6 ประโยคทรงพลังคืออะไร?
ประโยคทรงพลังเป็นการสื่อสารที่ไม่ปะทะ
แต่ “ประสาน” เพื่อเข้าใจเห็นใจและเคารพกัน

6 ประโยคทรงพลัง
1.ผมเข้าใจ
2.ผมไม่เข้าใจ
3.แปลว่าอะไร
4.เห็นด้วยไหม
5.ถามตรงๆได้ไหม
6.พูดตรงๆได้ไหม
คำว่า "ไอคิโด" (Aikido / 合気道) คือศิลปะการต่อสู้จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีปรัชญาและหลักการลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่เรื่องการต่อสู้ แต่ยังเป็นแนวทางในการใช้ชีวิต
ชื่อของไอคิโดประกอบด้วย 3 คำ:
- 合 (ไอ) = การประสาน, ความกลมกลืน
- 気 (คิ) = พลังงานภายใน, จิตวิญญาณ
- 道 (โด) = หนทาง, วิถี
รวมความหมายได้ประมาณว่า "วิถีแห่งการประสานพลัง" หรือ "หนทางของการกลมกลืนกับพลังชีวิต"
หลักการของไอคิโด:
- ไม่เน้นการปะทะตรง ๆ แต่ใช้การเคลื่อนไหวที่อ่อนนุ่มและแม่นยำ เพื่อเปลี่ยนทิศทางพลังของฝ่ายตรงข้าม
- เน้น การควบคุม ไม่ใช่ทำลาย
••ผู้ฝึกจะเรียนรู้เรื่องสมาธิการควบคุมตนเอง และความเคารพต่อผู้อื่น
การขายแบบไม่ขายด้วย 6 ประโยคทรงพลัง
เปลี่ยนพลังต้านให้เป็นพลังร่วมด้วยพลังของการฟังและความเข้าใจ
ในโลกที่ผู้คนเบื่อการถูกขายมากกว่าการจ่ายเงินนักขายที่ดีจึงไม่ใช่คนที่ “ขายเก่ง” แต่เป็นคนที่ สื่อสารเก่ง
และเข้าใจจังหวะของใจลูกค้าเหมือนกับศาสตร์ไอคิโดที่ไม่ได้เน้นการปะทะแต่เน้นการประสานพลังอย่างชาญฉลาด
วันนี้เราจะมาคุยกันถึง 6 ประโยคทรงพลัง ที่ใช้ได้ทุกครั้งที่คุณอยาก "ขายแบบไม่ขาย" ให้ดูนุ่มนวลแต่มีพลัง
1. "ผมเข้าใจ"
เป็นคำง่าย ๆ ที่สร้าง “สะพาน” ทางอารมณ์
เมื่อลูกค้าบ่น วิตก หรือลังเล อย่าเพิ่งเถียงหรืออธิบาย — แค่บอกว่า “ผมเข้าใจ” หรือ “เข้าใจความรู้สึกนั้นเลยครับ/ค่ะ” ก็เพียงพอจะเปิดใจแล้ว
🤝 การยอมรับความรู้สึก คือจุดเริ่มต้นของความเชื่อใจ
2. "ผมไม่เข้าใจ"
ฟังดูย้อนแย้ง แต่กลับทรงพลังที่สุด
การกล้ายอมรับว่าเราไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกค้าพูด คือการให้เกียรติและแสดงความตั้งใจเรียนรู้ ไม่เสแสร้งว่าเรารู้ไปทุกอย่าง
👂 ความอ่อนน้อม นำไปสู่การพูดคุยที่แท้จริง
3. "แปลว่าอะไร"
ประโยคนี้ช่วยให้เราเข้าใจ “เบื้องหลังคำพูด” ของลูกค้า
เวลาลูกค้าพูดอะไรคลุมเครือ เช่น “มันแพงไป” หรือ “เดี๋ยวไว้ก่อน” ให้ถามกลับเบา ๆ ว่า “แปลว่าอะไรครับ” หรือ “ช่วยเล่าเพิ่มหน่อยได้ไหม”
🔍 เพราะสิ่งที่เขาพูด อาจไม่ใช่สิ่งที่เขาหมายถึง
4. "เห็นด้วยไหม"
การถามคำนี้ คือการเชื้อเชิญ ไม่ใช่การยัดเยียด
แทนที่จะปิดการขายด้วยคำว่า “ใช่ไหมครับ” หรือ “ตัดสินใจเลยไหมครับ” ลองเปลี่ยนเป็น “เห็นด้วยไหมครับ” เพื่อให้เขารู้สึกเป็นเจ้าของการตัดสินใจ
✨ ลูกค้าจะเชื่อในคำตอบของตัวเอง มากกว่าคำพูดของเรา
5. "ถามตรง ๆ ได้ไหม"
ประโยคนี้คือการ “ขออนุญาต” เข้าไปในใจลูกค้า
บางครั้งเราต้องการข้อมูลที่ชัดเจน เช่น งบประมาณ หรือเวลาตัดสินใจ การถามตรง ๆ โดยให้เกียรติ จะทำให้บทสนทนาลื่นไหลมากขึ้น
🧭 ความตรงไปตรงมา บนพื้นฐานของความนุ่มนวล คือพลังลับของนักขาย
6. "พูดตรง ๆ ได้ไหม"
ในบางสถานการณ์ เราอาจต้องสะท้อนความจริงให้ลูกค้าเห็น
เช่น “พูดตรง ๆ ได้ไหมครับ ผมคิดว่าคุณกำลังลังเลเรื่องความคุ้มค่า ไม่ใช่เรื่องราคา”
คำพูดแบบนี้เปิดโอกาสให้บทสนทนาไปสู่ระดับลึก และเป็นบทสนทนาที่เปลี่ยนใจได้จริง
💬 ความจริงที่มาพร้อมความเคารพ คือสิ่งที่ลูกค้าจำได้เสมอ
สรุป
การขายที่ดีที่สุด ไม่ใช่การพูดเก่ง แต่คือ การฟังเป็น
และ 6 ประโยคนี้ จะเป็นเครื่องมือให้คุณประสานพลังกับลูกค้า
เหมือนไอคิโดที่ไม่ได้ต่อสู้เพื่อชนะ แต่อาศัยจังหวะเข้าใจเพื่อ “เดินไปด้วยกัน”
เพราะการขายที่ดี คือการเปลี่ยนพลังต้านให้เป็นพลังร่วม ❤️